หน้าแรกบันทึกของครูโอกาสที่อาจเหลือแค่วินาทีเดียว

Related Posts

โอกาสที่อาจเหลือแค่วินาทีเดียว

“โอกาสที่อาจเหลือแค่วินาทีเดียว”

วันนี้หลังจากไปไปคัดสำเนา ก.พ.7 ที่เขตฯ ระหว่างเดินทางกลับมาที่โรงเรียน ผมได้จอดรถรอตรงบริเวณทางแยกที่เข้าสู่ถนนจ่าการบุญ ในแค่ชั่วพริบตาได้ยินเสียงดังโครมและร่างของผู้ชายสูงอายุคนหนึ่งพุ่งกระแทกตรงด้านหน้าของรถยนต์คันที่กำลังจะเลี้ยวเข้ามา ต้นเสียงที่ชนกันมีระยะห่างจากรถมอเตอร์ไซต์ของผมไม่ถึงสองเมตร ผมรีบเอาขาตั้งลงโดยเว้นช่องทางจราจรให้รถคันหลังที่รีบไปแทรกตัวไปทางซ้ายได้เพื่อลงไปช่วยผู้ประสบเหตุขึ้นมา

ชายคนนั้นยังมีสติแต่พยายามจะลุกขึ้นมายืนแต่ไม่สามารถทำได้ ผมประเมินเบื้องต้นว่าเข้าไม่น่าจะมีกระดูกแตกหักจึงได้ช่วยพยุ่งจากด้านหลังและพาเข้าข้างทางก่อนโดยหญิงเจ้าของรถยนต์คู่กรณีก็ลงมาช่วยด้วย

ชายคนนั้นพยายามจะพูดให้คนอื่นพยุงรถของตนเองขึ้นมาให้หน่อย (แสดงว่าสติเขาเริ่มกลับคืนมา) ได้ยินเสียงผู้หญิงพูดว่าพี่เค้ากำลังช่วยเอาขึ้นอยู่

พอทุกอย่างโอเค ผมก็ขึ้นรถจะข้ามมาโรงเรียนหันมามองแล้วก็แว๊บขึ้นมา “ถ้าลุงเข้าหักหลบคงเต็มๆที่กรูเลยหละ” แถมถ้าเราล้มรถตู้ที่ตามหลังมาคนได้ทบสอบความแข็งของหมวกกันน๊อคแน่ๆ

ภาพแตงโมแตกดังโพ๊ละลอยมา…

เหตุการณ์ดังกล่าวมันเกิดรวมๆกันไม่ถึงนาที เฮ้ยยย ชีวิตคนเรามันจะอยู่หรือไปแค่นาทีเดียวเลยเหรอ

หลายครั้งแล้วที่ผ่านอะไรแบบนี้มา แถมวันนี้เป็นวันที่ครบรอบ 4 ปีที่แม่จากไปอีกยิ่งทำให้แผลในใจมันปริออกมา

ย้อนกลับไปวันนั้น วันที่ 1 ม.ค. 62 ในช่วงสายๆมีเบอร์โทรศัพท์ของแม่ปรากฏขึ้นในหน้าจอ ตอนนั้นกำลังพิมพ์เอกสารย้ายแบบติดพันก็เลยคิดว่าแม่คงโทรมาอวยพรเฉยๆ อีกอย่างเดี๋ยววันที่ 6 ม.ค. แม่ก็จะมารักษาที่พิษณุโลกอยู่แล้ว พอช่วงบ่ายสาม เบอร์แม่โทรมาอีก 2 ครั้ง ก็เลยรับในครั้งที่สอง ปรากฏว่าเป็นเสียงพ่อ พ่อบอกว่าแม่เข้าห้องฉุกเฉินให้หารถกลับมาด่วน ตอนนั้นคิดไม่ออกว่าจะไปยังไง จะจ้างรถ หรือจะยังไงดีมันมืดไปหมด เลยลองขี่ไปดูตั๋วที่สถานีรถไฟในใจก็ภาวนาขอให้มี ไม่อยากบอกว่าตอนนั้นฝ่าตรงวงเวียนแบบเฉียดตายจริงๆ เพราะใจมันห่วงตั๋วมากกว่า (เรื่องนี้พ่อก็ยังไม่รู้) โชคดีที่มีตั๋วใบสุดท้าย ที่นั่งสูดท้าย ราคาสูงมาก สูงกว่าของน้องที่นั่งจากดอนเมืองมาอีก ก็เลยตัดสินใจเอา

…ทุกวันนี้ยังเสียใจอยู่ว่า ทำไมวันนั้นไม่รับสายแม่ จะได้ยินเสียงแม่ ได้บอกรักแม่อีกครั้ง อีกสักครั้งก็ยังดี

ทั้งเรื่องแม่ เรื่องผ่าตัด เรื่องเฉียดอุบัติเหตุ มันสอนให้ผมคิดเสมอว่า คนเรามันมีโอกาสจากไปหน่วยเป็นวินาที คนที่ทำงานร่วมกันเรา พูดเล่น ยิ้ม ร่าเริงกับเรา เขาอาจจะเพิ่งเฉียดความเป็นความตายมาก็ได้ เลยอยากจะบันทึกเรื่องนี้ไว้

ถ้าวันนี้คุณรู้สึกรักใคร คุณคิดถึงใคร ให้บอกเขาเสียก่อนที่จะไม่มีโอกาส

มันไม่น่าอายหรอก

บอกไปสิ เค้ารักตัวเอง พี่รักหนูนะ ผมรักคุณนะ บอกตอนที่ยังมีลงหายใจ ตอนที่ยังได้ยินเสียงกัน เพราะตอนอยู่ในโลกวิญญาณตะโกนดังแค่ไหนคงไม่ได้ยิน

วันนี้ก็เลยไล่บอกรักทุกคน คนไหนอยู่ใกล้ๆก็จะแกล้งทุกคนที่เรารัก ส่งข้อความ โทรหาคนที่เราห่วงใย

ใครที่รับสายก็ยินดีที่ยังได้ยินเสียงกัน

ส่วนใครที่อาจติดธุระไม่ได้รับสาย เผื่อวันนึงได้มาอ่านข้อเขียนนี้ก็ขอให้รู้ว่า “ไม่มีวินาทีไหนเลยที่ไม่รักนะจ๊ะ”

ครูแชมป์
5 ม.ค. 65

ครูแชมป์

ครูธรรมดาคนหนึ่ง

ครูที่ชื่นชอบการเขียน และเคยเขียน "บันทึกของครูบ้านนอก" ไว้ที่ bloger.com อยากจะบันทึกเรื่องราวต่างๆไว้ในความทรงจำ

โพสต์ล่าสุด